อย่างไรที่เรียกว่า รัฐธรรมนูญที่กินได้
คำถามที่ต้องย้อนไปว่า รัฐธรรมนูญในอดีตที่ผ่านมา มีผลบังคับใช้ไม่ 100 % ทำให้มีคำถามตามมาคือ รัฐธรรมนูญต้องกินได้ใช่หรือไม่ ลองมองต่างมุมกันว่า ที่ว่าต้องกินได้มันเป็นอย่างไร คำตอบคือ
1.
ประเทศไทยเรายังมีปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนใช่หรือไม่
2.
ประชาชนเข้าถึงกฎหมายยากใช่หรือไม่
3.
ประชาชนมองการใช้อำนาจรัฐเป็นการรังแกใช่หรือไม่
สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านอย่างเราๆวิตกกันมากคือ
กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในทุกเรื่องที่มีอำนาจรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะ มันไม่มีมาตรฐานเหมือนคอมพิวเตอร์
แต่อำนาจรัฐเป็นการใช้ดุลพินิจพิจารณาบนพื้นฐานของกฎหมาย เหมือนอย่างน้ำ 2
แก้ว เอามารวมกัน แยกไม่ออกว่า น้ำไหน แก้วไหน นั่นเอง ดังนั้น การที่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมา คือ
การมีส่วนร่วมของประชาชน
หรือเรียกให้โก้โก้หน่อยว่า การเมืองภาคพลเมือง
ในขั้นนี้ยังกินไม่ได้ แต่เท่ห์อย่างเดียว ที่ว่าจะกินได้
ต้องลงไปดูกฎหมายลูกและเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ทุกมาตราที่เขียนขึ้นมีบันทึกเจตนารมณ์หมด แต่หาดูยาก ทำไมถึงไม่เผยแพร่ก็ไม่รู้ (แปลกแต่จริงครับ)
กระบวนการได้มีซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2550 นับว่า
เป็นนวัตกรรมทางการเมืองอย่างหนึ่งที่เรียกอย่างนี้เพราะว่า มันมีคุณค่า โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
หลังจากมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาล มีสภาผู้แทนราษฎร มีวุฒิสภา เราจะมาดูกันอีกว่า สิ่งที่จะเกิดตามมามีอะไรบ้าง
1.
ความไม่เสถียรของรัฐบาล แปลง่ายๆเปรียบเสมือนรถยนต์ที่เครื่องยนต์เดินสะดุดเป็นระยะๆนั่นเอง
2.
เมื่อการเมืองเป็นเรื่องเบื่อหน่ายสำหรับประชาชน คำตอบตามมาก็คือ ใครก็ได้ที่มีฝีมือ ทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินและประเทศชาติจะก้าวไปสู่ความมั่นคั่งทางเศรษฐกิจ ประชาชนเอาทั้งนั้น
3.
รัฐธรรมนูญฉบับปี
2550 ให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอนนักการเมือง แก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขกฎหมายได้ อย่าลืมว่า รัฐธรรมนูญจะกินได้หรือไม่ได้ ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน(ระวัง) ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์